รับทำ SEO รับทำ SEO

รับทำ SEO

มั่นใจ ติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาบน Google

รับประกันการ รับทำ SEO แบบ 100% ถ้าไม่ได้ผล เรายินดีคืนเงิน 100% เพราะเรามีทีมงานที่จะดูแลเว็บไซต์ของท่าน และมีประสบการณ์ในการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ชื่อดัง

Read more...
รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์

ด้วยประสบการณ์จากทีมงานมืออาชีพของ Wynnsoft Solution

คุณสามารถมั่นใจกับการให้บริการและการสร้างสรรค์ผลงาน ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด รับทำเว็บไซต์ เว็บบริษัท, เว็บขายสินค้า e-commerce

Read more...
รับเขียนโปรแกรม รับเขียนโปรแกรม

รับเขียนโปรแกรม

บริการ รับเขียนโปรแกรม ด้วย C#.net ,ASP.net และ Open Source ทุกรูปแบบ หรือจะเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป เช่น ระบบบัญชี ระบบสแกนลายนิ้วมือ รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์ SEO และฝากแบนเนอร์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของท่า

Read more...
รับติด Banner รับติด Banner

รับติด Banner

เรามีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ในการช่วยเหลือลูกค้าและออกแบบเว็บไซต์ด้วยราคาที่คุ้มค่า เราพร้อมบริการทุกท่านด้วยความเป็นมิตรอย่างสูง พร้อมให้คำปรึกษาการวางแผนด้านการตลาดออนไลน์และการโปรโมทโฆษณา

Read more...
ประเภทของ E-commerce มีอะไรบ้าง

ประเภทของ E-commerce มีอะไรบ้าง

E-commerce คือการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ตโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเป็นสื่อกลางในการดำเนินธุรกรรมต่างๆ การค้าขายออนไลน์ สามารถแบ่งประเภทได้ตามกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกันในการซื้อขาย

1. B2C (Business to Consumer)

ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการตรงให้กับผู้บริโภคโดยไม่ผ่านคนกลางจุดเด่นในการทำธุรกิจประเภทนี้คือความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ง่ายและรวดเร็ว เช่น ร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada, Shopee, Amazon หรือบริษัทที่ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตนเอง

2. B2B (Business to Business)

ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการให้กับธุรกิจอื่นๆเป็นการดำเนินการซื้อ – ขาย ระหว่างธุรกิจ กับธุรกิจเท่านั้น ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งการขายสินค้าไปจนถึงการเป็นผู้ผลิตให้กับธุรกิจอื่น ๆ เช่น ตลาดขายส่ง หรือบริษัทที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับบริษัทต่างๆ

3. C2C (Consumer to Consumer)

การซื้อขายระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน เช่น การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook Marketplace หรือ eBay

4. C2B (Consumer to Business)

ผู้บริโภคขายสินค้าหรือบริการให้กับธุรกิจ เช่น การทำงานฟรีแลนซ์ หรือขายข้อมูลต่างๆ ให้กับธุรกิจ

5. B2G (Business to Government)

เป็นการทำธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับรัฐบาลขายสินค้าหรือบริการให้กับรัฐบาล เช่น รับเหมาก่อสร้างตึกให้กับรัฐบาล ขายอุปกรณ์สำนักงานให้กับรัฐบาล 

6. Mobile Commerce (M-Commerce)

เป็นการทำธุรกิจซื้อขายออนไลน์ผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งช่วยให้ทำการซื้อขายสินค้าและบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น

7. Social Commerce (S-Commerce)

การค้าขายทางโซเชียลโดยตรงผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์โดยมีการทำการตลาดผ่านโพสต์หรือโฆษณา เช่น Facebook, Instagram, หรือ TikTok เป็นต้น

8. Digital Products and Services

การขายสินค้าที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในการสร้างขึ้นมา ซึ่งจับต้องไม่ได้และเราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้  เช่น ซอฟต์แวร์, คอร์สออนไลน์, เพลง, หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

สรุป

E-commerce มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถอำนวยความสะดวกสบายในการซื้อขายสินค้าได้หลากหลายประเภทและกว้างขวาง รวมถึงการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ทำให้การค้าขายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว


วันที่ : 19/11/2024 15:28