รับทำ SEO ออกแบบเว็บไซต์ รับทำเว็บไซต์ ทำการตลาดออนไลน์ โปรโมทเว็บไซต์

เครื่องมือ Optimized Speed แบบคนไม่รู้ Code ก็ทำได้

เครื่องมือเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ WordPress สำหรับคนไม่รู้โค้ด ทำได้ง่ายๆ ไม่กี่คลิก ปัญหาเว็บไซต์โหลดช้า เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เพราะนอกจากจะทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกหงุดหงิดแล้ว ยังส่งผลเสียต่ออันดับการค้นหาใน Google อีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะแม้จะไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ ก็สามารถเพิ่มความเร็วให้เว็บไซต์ WordPress ได้ด้วย ปลั๊กอิน ที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ปลั๊กอินเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ยอดนิยม

-WP Rocket : เป็นปลั๊กอินที่ได้รับความนิยมสูงสุดตัวหนึ่ง เพราะใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ครบครัน และช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟีเจอร์เด่นๆ ได้แก่
-แคช : บันทึกหน้าเว็บเป็นไฟล์ HTML เพื่อให้โหลดเร็วขึ้นเมื่อมีผู้เข้าชมครั้งต่อไป
-บีบอัดไฟล์ : ลดขนาดไฟล์ภาพและ CSS เพื่อให้โหลดเร็วขึ้น
-โหลดสคริปต์แบบเลื่อน : โหลดสคริปต์ที่ไม่จำเป็นตอนเปิดหน้าเว็บ เพื่อให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น และอีกมากมายมีทั้งแบบทดลองใช้และเสียตังค์
-W3 Total Cache : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี มีฟีเจอร์คล้ายกับ WP Rocket แต่มีให้เลือกปรับแต่งมากกว่า
-Swift Performance : ปลั๊กอินฟรีที่น่าสนใจ มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับเพิ่มความเร็วเว็บไซต์
-Shotpixel : ปลั๊กอินที่ครอบคลุมสำหรับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ภาพนิ่งและวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อความสนุกสนาน

นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินอื่นๆ อีกมากมายให้เลือก เช่น 

-Kadence 
-All in one seo pro
-Creative Writer
-Graphic Design
-Adobe 
-Cloud Hosting
ปลั๊กอินเหล่านี้ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีในการติดตั้งเพื่อพัฒนาเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับความต้องการ ช่วยเพิ่มโอกาสติดหน้าแรกของ Google และยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้กับเว็บไซต์อีกด้วย 

วิธีเลือกปลั๊กอิน

1.งบประมาณ ปลั๊กอินฟรีก็มีประสิทธิภาพดี แต่ปลั๊กอินเสียเงินมักจะมีฟีเจอร์ที่ครบครันและได้รับการสนับสนุนที่ดีกว่า
2.ความง่ายในการใช้งาน เลือกปลั๊กอินที่มีอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
3.เลือกปลั๊กอินที่มีฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการ
4.ความเข้ากันได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลั๊กอินที่เลือก ใช้งานได้กับธีมและปลั๊กอินอื่นๆ ที่ใช้อยู่
5.เลือกธีมที่มีโค้ดน้อย เบา ไม่กินทรัพยากรเยอะ และไม่ซับซ้อนจะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
6.ใช้เครื่องมือบีบอัดภาพออนไลน์เพื่อลดขนาดไฟล์ภาพ
7.ใช้เฉพาะปลั๊กอินที่จำเป็น ลดจำนวนปลั๊กอิน หากปลั๊กอินมากเกินไปอาจทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลง
8.ทำความสะอาดฐานข้อมูล ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากฐานข้อมูลอยู่เสมอ
9.ตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ ใช้เครื่องมือตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ เช่น Google PageSpeed Insights 

ปลั๊กอินไหนดีที่สุด

ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ แต่ WP Rocket และ W3 Total Cache เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงและใช้ได้จริง มีประสิทธิภาพ ปลั๊กอินมีทั้งปลั๊กอินฟรีและเสียเงิน สามารถเลือกตามความเหมาะสม การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ช่วยให้ผู้เข้าชมรู้สึกประทับใจและอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้อันดับการค้นหาใน Google ดีขึ้นด้วย

ขั้นตอนการติดตั้งและใช้งาน

-เข้าสู่แดชบอร์ด WordPress ไปที่เมนู ปลั๊กอิน แล้วเลือก เพิ่มใหม่
-ค้นหาปลั๊กอิน พิมพ์ชื่อปลั๊กอินที่ต้องการ เช่น WP Rocket
-ติดตั้งและเปิดใช้งาน คลิกปุ่ม ติดตั้งทันที แล้วตามด้วย เปิดใช้งาน
-ตั้งค่า เข้าไปที่หน้าตั้งค่าของปลั๊กอินเพื่อปรับแต่งค่าต่างๆ ตามต้องการได้เลย 

สรุป

การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ WordPress ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่เลือกใช้ปลั๊กอินที่เหมาะสมและตั้งค่าอย่างถูกต้อง เว็บไซต์ก็จะโหลดเร็วขึ้นและได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้เข้าชม

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก: นักเขียนนิรนาม

วันที่ : 07/08/2024 11:16

---